การเก็บสมุนไพรที่ถูกต้อง

การเก็บสมุนไพร เพื่อให้ได้ปริมาณยามากที่สุด

สมุนไพรไทย
ตำหรับยาที่ได้จาก “สมุนไพรไทย” ถือว่าเป็นศาสตร์อีกแขนงหนึ่งที่สืบทอดกันมาแต่โบราณ อีกทั้งยังเป็นที่ยอมรับในวงการแพทย์สมัยใหม่ในปัจจุบันอีกด้วย แต่ในการเก็บสมุนไพรเพื่อนำมาปรุงเป็นยารักษาโรคนั้น เพื่อให้ได้ประโยชน์ทางด้านสรรพคุณทางยาอย่างสูงสุด คนสมัยก่อนจะเก็บตามช่วงเวลาที่เหมาะสมและลักษณะของการใช้งาน ตามที่ผมได้ศึกษาในหนังสือ “สมุนไพรไทย” เล่มเก่าอยู่เล่มหนึ่ง มีวิธีการเก็บสมุนไพรอย่างนี้ครับ

- หากจะเก็บประเภทดอก
ควรจะเก็บในช่วงที่ดอกของสมุนไพรกำลังเริ่มบานหรือบานเต็มที่แล้ว เพราะจะเป็นช่วงที่สมุนไพรสะสมปริมาณตัวยาเอาไว้ค่อนข้างสูง แต่ก็มีสมุนไพรบางชนิดที่ต้องเก็บในช่วงที่ดอกตูม เช่น กานพลู เป็นต้น

- หากจะเก็บส่วนรากหรือหัว
ให้เก็บในช่วงเวลาที่พืชสมุนไพรชนิดนั้นหยุดการเจริญเติบโตแล้ว สังเกตได้จากดอกและใบจะร่วงออกจนเกือบหมด หรือในช่วงต้นฤดูหนาวจนถึงปลายฤดูร้อน เช่นกระชายหรือขิง เหตุผลก็เพราะว่าช่วงนี้รากหรือหัวของสมุนไพรดังกล่าว จะสะสมปริมาณตัวยาเอาไว้ค่อนข้างสูง  และการเก็บสมุนไพรก็จะต้องขุดด้วยความระมัดระวัง เพื่อป้องกันไม่ให้รากหรือหัวสมุนไพรเกิดความเสียหาย จนแตกหักหรือช้ำ

- หากจะเก็บใบหรือเก็บทั้งต้น
ควรเก็บใบของสมุนไพรที่สมบูรณ์ และมีการเจริญเติบโตมากที่สุด ไม่ควรเก็บใบที่อ่อนจนเกินไป เช่นเก็บช่วงที่สมุนไพรชนิดนั้นมีดอกบานเป็นต้น ในการเก็บแนะนำให้ใช้วิธีเด็ดใบ เช่น สมุนไพรฟ้าทะลายโจรเป็นต้น

- หากจะเก็บประเภทเปลือกของราก หรือเปลือกต้น
สำหรับ “เปลือกต้นของสมุนไพร” ควรเก็บในช่วงฤดูร้อนที่ต่อกับช่วงฤดูฝน คือประมาณปลายๆเดือนเมษายน- ช่วงกลางเดือนพฤษภาคม เพราะในช่วงนี้ปริมาณยาในสมุนไพรจะมีมากกว่าช่วงอื่น และจะเป็นช่วงที่ลอกเปลือกสมุนไพรได้ง่าย แต่ก็ไม่ควรลอกเปลือกของสมุนไพรจนรอบต้น เพราะจะไปกระทบกระเทือนต่อการลำเลียงอาหารของพืช จนอาจทำให้ตายได้ ทางที่ดีควรลอกเปลือกของกิ่งที่เป็นแขนงย่อยออกมา ไม่ควรลอกเปลือกจากต้นใหญ่ หรือจะใช้วิธีลอกเปลือกแบบครึ่งวงกลมของต้นไม้ก็ได้ ส่วนช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเก็บ “เปลือกรากของสมุนไพร” คือช่วงฤดูฝน เพราะการลอกเปลือกรากของสมุนไพร จะส่งผลเสียต่อการเจริญเติบโตของพืช ควรทำด้วยความระมัดระวังเพราะอาจทำให้พืชชะงักการเจริญเติบโตหรือตายได้

- หากจะเก็บประเภทผลหรือเมล็ด

สำหรับสมุนไพรบางชนิด อาจจะเก็บในช่วงที่ผลยังไม่สมบูรณ์หรือผลยังไม่สุกก็มี เช่น ฝรั่ง ที่นิยมเก็บผลอ่อนมาเป็นยาแก้ท้องร่วง ส่วนสมุนไพรที่นิยมเก็บช่วงที่ผลแก่เต็มที่แล้วก็มี เช่น ดีปลี มะแว้งเครือ มะแว้งต้น เมล็ดฟักทอง เมล็ดชมเห็ดไทย และเมล็ดสะแก เป็นต้น